รีวิวขั้นตอนสมัครแอร์โฮสเตส-สจ๊วต การบินไทย ขั้นตอนใหม่อัพเดทรอบล่าสุด 2023

การบินไทย สายการบินแห่งชาติ เพิ่งกลับมารับสมัครแอร์สจ๊วตครั้งใหญ่ในรอบหลายปี พี่เชื่อว่าสายการบินนี้เป็นสายการบินในฝันของน้องหลายคนเลย และหลายคนก็คงอยากจะรู้ขั้นตอนการคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินไทย ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง อัพเดทจากรอบล่าสุดที่ผ่านมา

1. สมัครออนไลน์พร้อมกับแนบคลิปแนะนำตัว

ขั้นตอนแรกเราจะต้องถ่ายคลิปแนะนำตัวนำเสนอทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาว 30-50 วินาที อัพโหลดลง youtube ตั้งค่าแบบ unlisted จากนั้นก็สมัครออนไลน์ กรอกข้อมูลส่วนตัว ส่วนสูงน้ำหนัก ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน พร้อมกับแนบลิงค์คลิปแนะนำตัวของเราไปด้วยค่ะ

2. Pre-Screen

สายการบินจะส่งอีเมล invitation ให้คนที่ผ่านการคัดเลือกรอบสมัครออนไลน์ ไปสัมภาษณ์ด่านแรก Pre-screen ระบุวันเวลา สถานที่ให้อย่างชัดเจน ในวันนั้นเริ่มต้นจากลงทะเบียน แล้วขึ้นไปนั่งรอ ระหว่างที่นั่งรอจะมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายกติกาต่าง ๆ เริ่มจากการจับลูกบอลหมายเลข 1-4 เพื่อสุ่มห้องพรีสกรีน และพี่ ๆ เจ้าหน้าที่จะคอยกำชับว่าห้ามแนะนำตัวชื่อ นามสกุล ชื่อเล่นกับกรรมการเด็ดขาด

เมื่อถึงคิวเราก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่พาเราเข้าห้องสัมภาษณ์ ในห้องนี้จะมีกรรมการทั้งหมด 4 ท่าน 2 ท่านจะชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง ส่วนอีก 2 ท่านจะนั่งอยู่โต๊ะกลางห้อง สัมภาษณ์ผู้สมัครแบบเล็กน้อย เมื่อเข้าไปถึง อย่างแรกกรรมการจะบอกให้เราถอดรองเท้า ถอดหน้ากากอนามัยออกก่อน จากนั้นไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง โดยจะต้องผ่านเกณฑ์ BMI ด้วยนะคะ รอบนี้ค่อนข้างเคร่งเลยค่ะ หากเราผ่านเกณฑ์ BMI ก็จะต้องไปเอื้อมแตะ 212 cm ต่อ โดยกรรมการจะบอกว่าเราสามารถเอื้อมแตะได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เมื่อเอื้อมแตะผ่านแล้ว กรรมการที่นั่งอยู่ 2 ท่านก็จะสัมภาษณ์ ชวนคุยต่อเลยทันที แต่คำถามก็จะเป็นคำถามทั่ว ๆ ไปเลย อย่างเช่น วันนี้มายังไง ทานอะไรมาหรือยัง ตื่นเต้นไหม ทำไมถึงอยากเป็นลูกเรือ ทำไมถึงต้องการบินไทย เป็นต้น จากนั้นก็กลับบ้านไปรอผลรอบต่อไปได้เลย

3. Final interview

รอบนี้สายการบินจะส่งอีเมล invitation แจ้งผลผู้ที่ผ่านเข้ามาสู่รอบไฟนอลอีกเช่นเคย รอบนี้มีผู้สมัครผ่านเข้ามาได้ประมาณ 700 คน จากผู้สมัครราว 1500 คน ในรอบนี้จะคล้ายกับรอบพรีสกรีนเลย แต่กรรมการจะใช้เวลาอยู่กับผู้สมัครนานขึ้น 15 นาทีต่อคน รอบนี้จะจับลูกบอลสุ่มหมายเลขเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีทั้งหมด 3 หมายเลข แล้วก็นั่งรอเข้าห้องสัมภาษณ์ตามหมายเลขที่เราจับได้

เมื่อเข้าไปถึงห้องกรรมการก็จะให้เราแนะนำตัวโดยห้ามบอกชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่นเช่นเดิม สิ่งที่เราจะต้องแนะนำตัวก็คือประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน แบบสั้น ๆ กระชับ ได้ใจความ จากนั้นกรรมการก็จะถามต่อจากประวัติที่เราแนะนำตัวไป และมีคำถามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเยอะพอสมควรค่ะ ตัวอย่างคำถามในรอบนี้ก็อย่างเช่น ทำไมถึงอยากเป็นลูกเรือ ทำไมถึงเปลี่ยนสายงาน คิดยังไงกับคอมเมนต์แย่ ๆ เกี่ยวกับการบินไทยในโซเชียล คิดว่าเรามีทักษะอะไรที่โดดเด่นบ้าง รู้อะไรเกี่ยวกับการบินไทย ถ้าเพื่อนร่วมงานบนไฟล์ทอู้งาน เราจะทำยังไง ถ้าผู้โดยสารโวยวาย ไม่พอใจจะทำยังไง ถ้าผู้โดยสารมีความต้องการที่ขัดกับกฎระเบียบของการบินไทย จะทำยังไง เป็นต้น

จากนั้นกรรมการจะให้เราเลือกสุ่มหยิบการ์ด 3 ใบที่วางอยู่บนโต๊ะ ให้เราเลือกมาหนึ่งใบ แล้วให้อ่านออกเสียงให้กรรมการฟัง จากนั้นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เราจับได้เป็นภาษาอังกฤษ ข้อความในการ์ดจะค่อนข้างหลากหลายมาก อย่างเช่น climates changes Mango Sticky Rice Growth mindset customers centricity เป็นต้น คำศัพท์ในการ์ดค่อนข้างเลือกใช้คำยาก และอ่านยาก เพื่อสร้างความท้าทายให้กับผู้สมัคร บางคนอาจจะโดนถามเป็นภาษาอังกฤษต่อด้วย

1 นาทีสุดท้าย กรรมการจะให้เราขายตัวเอง ว่าเรามีทักษะอะไร ทำไมถึงเหมาะสมที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้กับการบินไทย เราจะต้องใช้ 1 นาทีสุดท้ายนี้ให้มีประโยชน์สูงสุดกับตัวเราค่ะ

4. Swimming Test & Medical Check Up

หากเราผ่านด่าน final interview ก็จะต้องไปว่ายน้ำต่อ รอบนี้ว่ายน้ำต่อเนื่อง 50 เมตร ภายในระยะเวลา 6 นาที หากเราจมระหว่างทางเท้าแตะพื้น จะถือว่าตกรอบเลยทันที ว่ายน้ำเสร็จ ผ่านเรียบร้อยแล้วก็จะเข้าสู่การตรวจสุขภาพ เซ็นสัญญา และเทรนต่อไปค่า